วันอังคารที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

My Calendar

ประวัติส่วนตัว

นางสาว ปาริชาติ อรรครินทร์
ชื่อเล่น น้ำฝน
วิทยาลัยการเมืองการปกครอง
สาขาบริหารรัฐกิจและกิจการสาธารณะ (PA)
รหัสนิสิต 50011313301 ระบบ ปกติ



สารคดีสัตว์ป่า


คลิป สัตว์ป่า สิงโตรุมทึ้ง ควายป่า - ดูวิดีโอทั้งหมด กดที่นี่

เฟอเรท ( Ferret)


เฟอเรท(Ferret)

ลักษณะพิเศษของสัตว์ชนิดนี้มีความน่ารัก ขี้เล่น ซน ชอบขุดคุ้ย ลำตัวยาว สามารถฝึกให้เชื่องได้ไม่ยาก ณ.ที่นี้จะไม่เล่าถึงวงศ์ตระกูลนะครับ เพราะเวปเฉพาะเฟอเรทมีเยอะครับ เอาเท่าที่เห็นกันบ่อยๆทั่วๆไปเฟอเรทที่เราเห็นๆกันอยู่ถูกนำเข้ามาจาก ยุโรป อเมริกา ญี่ปุ่น เป็นส่วนใหญ่ และเกือบ100%ถูกทำหมันมาเรียบร้อยครับ ด้วยสาเหตุที่ว่าอาจจะทำให้ระบบนิเวศวิทยาบ้านเรา การแยกเพศดูได้จากอวัยวะเพศ แบ่งแยกได้อย่างชัดเจน คล้ายๆสุนัข ตัวผู้มีขนาดใหญ่กว่าตัวเมีย(ยกเว้นว่าตัวเมียทำหมัน) อายุเฉลี่ย 6-11 ปี ตัวผู้อายุ 6-8เดือนขึ้นไปสามารถผสมพันธุ์ได้ ส่วนตัวเมีย8เดือนถึง 1 ปีสังเกตุได้ว่าตัวเมียจะพร้อมผสมพันธุ์ อวัยวะเพศจะบวมเป่งออกมาอย่างเห็นได้ชัด ออกลูกปีละ1-2ครอก ครอกละ1-8 ตัว(อาจถึง10หรือกว่านั้นอีก)หากเฟอเรทของคุณถูกเลี้ยงในห้องปรับอากาศขนเขาจะยาวฟูสวยงามมากครับ แต่ถ้าอากาศร้อนเขาจะปรับตัวโดยการผลัดขน ให้ขนสั้นลง เฟอเรทอาบน้ำได้เช่นเดียวกับสัตว์เลี้ยงอื่นๆ เทคนิคเวลาอาบน้ำให้ใช้น้ำอุ่นอาบให้ เฟอเรทของคุณจะไม่ดิ้นรน ตะกุยตะกาย ยอมให้อาบแต่โดยดี แชมพูใช้ของแมวขนยาวก็ได้จะทำให้ขนนุ่มขึ้น หลังอาบน้ำควรเช็ดขนให้แห้งเพื่อป้องกันเชื้อรา ชโลมด้วยโลชั่นบำรุงขน หลังจากนั้นเช็ดหูด้วยโลชั่นเช็ดหู คราวนี้รับรองว่าเฟอเรทของเพื่อนๆจะหอมฟุ้ง น่ารัก น่ากอด ไปอีกหลายวัน



http://www.hamsteronline.com/blog/category/ferret-pets/

สิงโต







สิงโต
Lion
ชื่อทางวิทยาศาสตร์: Panthera leo

ลักษณะทั่วไป

สิงโตแอฟริกา และสิงโตอินเดียไม่มีลักษณะที่แตกต่างกัน สิงโตไม่มีลายบนตัวอย่างเสือ ตัวผู้ที่โตเต็มที่จะมีขนยาวขึ้นรอบคอ ดูสง่าน่าเกรงขาม ตัวเมียไม่มีขนรอบคอ ตรงปลายหางมีขนขึ้นเป็นพู่

ถิ่นอาศัย, อาหาร

พบในทวีปแอฟริกา ในทวีปเอเชียยังคงพบได้บ้างเช่นในประเทศอินเดียทางแถบตะวันตก สิงโตกินเนื้อสัตว์เป็นอาหาร กินสัตว์ได้แทบทุกชนิด เช่น กระต่ายป่า ไก่ป่า ลิง จระเข้ เม่น กวางต่างๆ และม้าลาย เป็นต้น แม้แต่ซากสิงโตด้วยกันเองก็กิน

พฤติกรรม, การสืบพันธุ์

ชอบอยู่เป็นฝูงตามทุ่งโล่ง ขนาดของฝูงขึ้นอยู่กับปริมาณของเหยื่อ ถ้ามีเหยื่อมากและเหยื่อมีขนาดใหญ่ สิงโตก็จะอยู่รวมกันเป็นฝูงใหญ่ เวลาส่วนใหญ่ของสิงโตหมดไปกับการนอนพักผ่อน จะล่าเหยื่อก็ต่อเมื่อหิว หน้าที่ล่าเหยื่อจะเป็นของตัวเมียเป็นส่วนใหญ่ ตัวผู้ล่าเหยื่อไม่เก่ง แต่จะเป็นผู้คอยกันตัวเมียออกจากซากเหยื่อ เพื่อให้ลูกสิงโตได้มีโอกาสกินด้วย นอกจากนี้ยังมีหน้าที่ป้องกันฝูงและรักษาอาณาเขตของฝูงจากตัวผู้ตัวอื่น สิงโตออกหากินกลางคืน ตั้งแต่เริ่มมืดจนถึงเที่ยงคืน เมื่อกินเหยื่อเสร็จแล้วต้องกินน้ำ และนอนพัก ตอนเช้าจึงจะกลับที่อยู่ การล่าเหยื่อของสิงโตมีทั้งแบบออกล่าตัวเดียวและเป็นกลุ่ม วิธีการล่าเหยื่อของสิงโตคือจะพยายามเข้าไปใกล้เหยื่อให้ได้มากที่สุดก่อนที่จะตะครุบเหยื่อหรือออกวิ่งไล่เหยื่อ เพื่อให้เหยื่อมีเวลาหนีน้อยที่สุดเนื่องจากว่าสิงโตสามารถวิ่งได้เร็วในระยะสั้นๆเท่านั้น นอกจากนี้สิงโตยังมีความอดทนอย่างมากในการรอคอยเหยื่อ สิงโตมีฤดูผสมพันธุ์ไม่แน่นอนสามารถมีได้ทุกเวลาตลอดปี ตัวเมียเริ่มผสมพันธุ์ได้เมื่อมีอายุประมาณ 3 ปี ส่วนตัวผู้ประมาณ 4-6 ปี ระยะของการเป็นสัดนาน 4-16 วัน ตั้งท้องนานราว 100 วัน ออกลูกครั้งละ 3-5 ตัว ลูกอดนมเมื่ออายุ 3-6 เดือน และมีอายุยืนประมาณ 30-40 ปี

สถานภาพปัจจุบัน

สถานที่ชม

สวนสัตว์ดุสิต สวนสัตว์เปิดเขาเขียว สวนสัตว์เชียงใหม่ สวนสัตว์นครราชสีมา สวนสัตว์สงขลา


http://www.moohin.com/animals/mammals-68.shtml
http://www.verdantplanet.org/catsoftheworld/cat_lion.php
http://std.kku.ac.th/4831800546/general/general.html


นกยูงไทย


นกยูงไทย
Green Peafowl
ชื่อทางวิทยาศาสตร์: Pavo muticus


ลักษณะทั่วไป

เป็นนกขนาดใหญ่มาก ความยาววัดจากปลายปากถึงปลายหางประมาณ 102 - 245 เซนติเมตร ทั้งเพศผู้และเพศเมียมีหงอนเป็นพู่สีเหลืองชี้ตรงอยู่บนหัว ต่างจากนกยูงอินเดียซึ่งเป็นรูปพัด บนหัวและคอเป็นขนสั้น ๆ สีเขียวเหลือบน้ำเงิน หน้ามีสีฟ้า ดำ และเหลือง ขนคอ หน้าอกและหลังตรงกลาง ขนมีเหลือบน้ำเงินแก่ล้อมด้วยสีเขียวและสีทองแดง นกยูงตัวผู้มีแพนขนปิดหางยาวหลายเส้น ตรงปลายมีดอกดวง "แววมยุรา" ตรงกลางดวงมีสีน้ำเงินแกมดำอยู่ภายในพื้นวงกลมเหลือบเขียว ล้อมรอบด้วยรูปไข่สีทองแดง เมื่อนกยูงรำแพนจึงเป็นรูปพัดขนาดใหญ่มีสีสันสวยงามมาก นกยูงตัวเมียมีขนาดเล็กกว่าตัวผู้เล็กน้อย และมีเดือยสั้นกว่า ขนของตัวเมียมักมีสีน้ำตาลแดงแทรกอยู่เป็นคลื่น


ถิ่นอาศัย, อาหาร

นกยูงมีการกระจายพันธุ์ในรัฐอัสสัม ประเทศอินเดีย ด้านตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศจีน เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเกาะชวา ในประเทศไทยพบในภาคเหนือและภาคตะวันตก นกยูงกินทั้งพืชและสัตว์ ได้แก่ เมล็ดหญ้า เมล็ดของไม้ต้น ธัญพืช ผลไม้สุก แมลง ตัวหนอน ไส้เดือน งู และสัตว์ขนาดเล็ก


พฤติกรรม, การสืบพันธุ์

นกยูงอาศัยตามป่าทั่วไปในระดับความสูงไม่เกิน 1,000 เมตรจากระดับน้ำทะเล พบอยู่เป็นฝูงเล็กๆ หลังช่วงฤดูผสมพันธุ์มักพบตัวเมียอยู่กับลูกตามลำพัง มักออกหากินในช่วงเช้าและบ่าย ตามชายป่าและริมลำธาร ตอนกลางคืนมักจับคอนนอนตามกิ่งไม้ค่อนข้างสูง การเกี้ยวพาราสีกันของนกยูงเริ่มเมื่อนกยูงตัวเมียหากินเข้าไปดินแดนของนกตัวผู้ ตัวผู้จะร่วมเข้าไปหากินในฝูงด้วย และแสดงการรำแพนหาง กางปีกสองข้างออกพยุงลำตัว ชูคอขึ้นแล้วย่างก้าวเดินหมุนตัวไปรอบ ๆ ตัวเมีย การรำแพนหางจะใช้เวลาประมาณ 5 - 10 นาที หากตัวเมียพร้อมที่จะผสมพันธุ์จะย่อตัวลงให้ตัวผู้ขึ้นผสมพันธุ์ นกยูงทำรังบนพื้นดินตามที่โล่งหรือตามซุ้มกอพืช อาจมีหญ้าหรือใบไม้แห้งมารองรัง วางไข่ครั้งละ 3 - 6 ฟอง เริ่มฟักไข่หลังจากออกไข่ฟองสุดท้ายแล้ว โดยใช้เวลาฟักทั้งสิ้น 26 - 28 วัน ลูกนกแรกเกิดมีขนอุยคลุมทั่วตัว สามารถยืนและเดินตามแม่ไปหาอาหารได้ทันทีที่ขนแห้ง โดยลูกนกจะตามแม่ไปหากินไม่น้อยกว่า 6 เดือน จากนั้นจึงหากินตามลำพัง


สถานภาพปัจจุบัน

นกยูงในป่าธรรมชาติค่อนข้างหายาก และปริมาณน้อย นอกจากบางแห่ง เช่น เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง ที่ยังพบได้บ่อย และปริมาณปานกลาง กฎหมายจัดให้นกยูงไทยเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พุทธศักราช 2535


สถานที่ชม

สวนสัตว์ดุสิต สวนสัตว์เปิดเขาเขียว สวนสัตว์เชียงใหม่ สวนสัตว์นครราชสีมา สวนสัตว์สงขลา


http://www.moohin.com/animals/birds-95.shtml
http://www.oknation.net/blog/2532/2009/02/12/entry-10
http://learners.in.th/blog/tippawanpo/253265

ยีราฟ






ยีราฟ
Giraffe
ชื่อทางวิทยาศาสตร์: Giraffa camelopardalis



ลักษณะทั่วไป

เป็นสัตว์บกที่สูงที่สุด มีคอยาวมาก ตัวผู้มีส่วนสูงประมาณ 18 ฟุต น้ำหนักประมาณ 1,100 - 1,932 กิโลกรัม ตัวเมียมีส่วนสูงประมาณ 17 ฟุต น้ำหนักประมาณ 700 - 1,182 กิโลกรัม มีเขาทั้งในตัวผู้และตัวเมีย ไม่ผลัดเขา เขามีขนปกคลุมอยู่ หนังมีขนสั้นสีน้ำตาล มีลายขาวแปลกตา ปากและลิ้นยาว ใช้ริมฝีปาก และลิ้นม้วนวนจับใบไม้ได้ มีเต้านม 4 เต้า


ถิ่นอาศัย, อาหาร

พบเฉพาะในทวีปแอฟริกา แถบทุ่งหญ้าสะวันนา ทางตอนใต้ของทะเลทรายซาฮาร่า ตั้งแต่ไนจีเรียไปจนจรดแม่น้ำออเรนจ์ ยีราฟไม่ชอบกินหญ้ามากนัก ชอบกินใบไม้มากกว่า


พฤติกรรม, การสืบพันธุ์

ชอบอาศัยอยู่ในทุ่งกว้างรวมกันเป็นฝูง และหากินร่วมกับสัตว์อื่นพวกม้าลาย นกกระจอกเทศ และพวกแอนติโลป โดยยีราฟจะคอยระวังภัยให้ ตัวผู้มีการต่อสู้กันในช่วงฤดูผสมพันธุ์ ศัตรูสำคัญของยีราฟคือเสือดาวและสิงโต ซึ่งยีราฟป้องกันตัวโดยใช้หัวเหวี่ยงและใช้เท้าเตะ ยีราฟเริ่มผสมพันธุ์ได้เมื่อมีอายุราว 3 ปีครึ่ง ตั้งท้องนาน 420 - 468 วัน ออกลูกครั้งละ 1 ตัว ลูกหย่านมเมื่ออายุ 10 เดือน เป็นสัดทุก 14 วัน แต่ละครั้งเป็นอยู่นาน 24 ชั่วโมง และมีอายุยืนประมาณ 20-30 ปี


สถานภาพปัจจุบัน


สถานที่ชม

สวนสัตว์ดุสิต สวนสัตว์เปิดเขาเขียว สวนสัตว์เชียงใหม่ สวนสัตว์นครราชสีมา สวนสัตว์สงขลา


http://www.moohin.com/animals/mammals-68.shtml
http://std.kku.ac.th/4831801102/main.html
http://www.cyberpetsociety.com/topic.php?topic=965

วันจันทร์ที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

กวางป่า( กวางม้า)



กวางป่า (กวางม้า)
Sambar Deer
ชื่อทางวิทยาศาสตร์: Cervus unicolor



ลักษณะทั่วไป

เป็นกวางขนาดใหญ่ ขนยาวหยาบมีสีน้ำตาลเข้ม ขนบริเวณคอจะยาวขึ้นหนาแน่นกว่าที่อื่นๆ ลูกกวางป่าเกิดใหม่จะไม่มีจุดขาว ๆ ตามตัวเช่น ในลูกเนื้อทรายหรือกวางดาว หางค่อนข้างสั้น มีเขาเฉพาะตัวผู้ เขามีข้างละ 3 กิ่ง เขาที่ขึ้นครั้งแรกมีกิ่งเดียว เมื่อเขาแรกหลุดเขาที่ขึ้นใหม่ มี 2 กิ่ง เมื่อเขา 2 กิ่งหลุด เขาที่ขึ้นใหม่มี 3 กิ่ง ปีต่อไปเมื่อผลัดเขาใหม่จะมีเพียง 3 กิ่งเท่านั้น ไม่เพิ่มมากกว่านี้ ผลัดเขาทุกปีในช่วงเดือนมีนาคม หรือ เดือนเมษายน เขาแก่ในเดือนพฤศจิกายน มีแอ่งน้ำตาที่หัวตาทั้ง 2 ข้าง ขนาดใหญ่มากยื่นออกมาให้เห็นชัดเจน ยิ่งในฤดูผสมพันธุ์แอ่งน้ำตานี้จะยิ่งมีขนาดใหญ่ขึ้นอีกและขับสารที่มีกลิ่นแรงมากออกมาซึ่งเป็นประโยชน์ในการดมกลิ่นตามหากัน เป็นสัตว์ที่มีหู ตา จมูกไวมาก



ถิ่นอาศัย, อาหาร

พบตั้งแต่ศรีลังกา อินเดีย เนปาล พม่า ไทย อินโดจีน จีนตอนใต้ มาเลเซีย สุมาตรา ชวา บอร์เนียว เซลีเบส ไต้หวัน ไหหลำ ฟิลิปปินส์ อัสสัม สำหรับประเทศไทย พบตามป่าดงดิบทั่วไปทุกภาคทั้งป่าสูงและป่าต่ำ ชอบกินใบไม้ และยอดอ่อนของพืชมากกว่าหญ้า อาหารในธรรมชาติของกวางได้แก่ เถาวัลย์อ่อน ๆ ยอดอ่อนของไม้พุ่มเตี้ย ๆ ใบไม้ใบหญ้าที่เพิ่งผลิใบ ใบไผ่ และชอบกินดินโป่งมาก

พฤติกรรม,การสืบพันธ์


ปกติชอบอยู่ตามลำพังตัวเดียว นอกจากฤดูผสมพันธุ์ ออกหากินตั้งแต่ตอนเย็นถึงเช้าตรู่ ส่วนกลางวันจะนอนในที่รกทึบ ชอบอาศัยอยู่ตามป่าทั่วไปรวมทั้งป่าทึบ ชอบออกมาหากินอยู่ตามริมทาง ลำธาร และทุ่งโล่ง ชอบนอนแช่ปลักโคลนเหมือนกระบือเพื่อป้องกันแมลง ในฤดูผสมพันธุ์ตัวผู้จะดุร้ายและหวงตัวเมียมาก ช่วงนี้ตัวผู้จะต่อสู้กันอย่างดุร้ายเพื่อแย่งตัวเมีย ว่ายน้ำเก่งและปราดเปรียว มันไม่ชอบช้างและกลิ่นของช้าง ฤดูผสมพันธุ์อยู่ในช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนมกราคม ตั้งท้องนานประมาณ 8 เดือน ออกลูกครั้งละ 1 ตัวในช่วงต้นฤดูฝน ลูกกวางจะเริ่มแยกจากแม่ไปหากินตามลำพังเมื่ออายุราว 1 ปีหรือ 1 ปีกว่า และโตกวางป่าพร้อมผสมพันธุ์ได้เมื่ออายุ 18 เดือน อายุยืนประมาณ 15-20 ปี


สถานภาพปัจจุบัน

เป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พุทธศักราช 2535



สถานที่ชม

สวนสัตว์เปิดเขาเขียว สวนสัตว์เชียงใหม่ สวนสัตว์นครราชสีมา สวนสัตว์สงขลา


http://www.moohin.com/animals/mammals-5.shtml
http://www.wanakorn.com/natural_detail.php?tid=38&nid=307
http://www.neutron.rmutphysics.com/science-glossary/index.php?option=com_content&task=view&id=11341&Itemid=5



ประวัติส่วนตัว

นางสาว ปาริชาติ อรรครินทร์
ชื่อเล่น น้ำฝน
วิทยาลัยการเมืองการปกครอง
สาขาบริหารรัฐกิจและกิจการสาธารณะ (PA)
รหัสนิสิต 50011313301 ระบบ ปกติ




คลิป สัตว์ป่า สิงโตรุมทึ้ง ควายป่า - ดูวิดีโอทั้งหมด กดที่นี่

เฟอเรท(Ferret)

ลักษณะพิเศษของสัตว์ชนิดนี้มีความน่ารัก ขี้เล่น ซน ชอบขุดคุ้ย ลำตัวยาว สามารถฝึกให้เชื่องได้ไม่ยาก ณ.ที่นี้จะไม่เล่าถึงวงศ์ตระกูลนะครับ เพราะเวปเฉพาะเฟอเรทมีเยอะครับ เอาเท่าที่เห็นกันบ่อยๆทั่วๆไปเฟอเรทที่เราเห็นๆกันอยู่ถูกนำเข้ามาจาก ยุโรป อเมริกา ญี่ปุ่น เป็นส่วนใหญ่ และเกือบ100%ถูกทำหมันมาเรียบร้อยครับ ด้วยสาเหตุที่ว่าอาจจะทำให้ระบบนิเวศวิทยาบ้านเรา การแยกเพศดูได้จากอวัยวะเพศ แบ่งแยกได้อย่างชัดเจน คล้ายๆสุนัข ตัวผู้มีขนาดใหญ่กว่าตัวเมีย(ยกเว้นว่าตัวเมียทำหมัน) อายุเฉลี่ย 6-11 ปี ตัวผู้อายุ 6-8เดือนขึ้นไปสามารถผสมพันธุ์ได้ ส่วนตัวเมีย8เดือนถึง 1 ปีสังเกตุได้ว่าตัวเมียจะพร้อมผสมพันธุ์ อวัยวะเพศจะบวมเป่งออกมาอย่างเห็นได้ชัด ออกลูกปีละ1-2ครอก ครอกละ1-8 ตัว(อาจถึง10หรือกว่านั้นอีก)หากเฟอเรทของคุณถูกเลี้ยงในห้องปรับอากาศขนเขาจะยาวฟูสวยงามมากครับ แต่ถ้าอากาศร้อนเขาจะปรับตัวโดยการผลัดขน ให้ขนสั้นลง เฟอเรทอาบน้ำได้เช่นเดียวกับสัตว์เลี้ยงอื่นๆ เทคนิคเวลาอาบน้ำให้ใช้น้ำอุ่นอาบให้ เฟอเรทของคุณจะไม่ดิ้นรน ตะกุยตะกาย ยอมให้อาบแต่โดยดี แชมพูใช้ของแมวขนยาวก็ได้จะทำให้ขนนุ่มขึ้น หลังอาบน้ำควรเช็ดขนให้แห้งเพื่อป้องกันเชื้อรา ชโลมด้วยโลชั่นบำรุงขน หลังจากนั้นเช็ดหูด้วยโลชั่นเช็ดหู คราวนี้รับรองว่าเฟอเรทของเพื่อนๆจะหอมฟุ้ง น่ารัก น่ากอด ไปอีกหลายวัน



http://www.hamsteronline.com/blog/category/ferret-pets/







สิงโต
Lion
ชื่อทางวิทยาศาสตร์: Panthera leo

ลักษณะทั่วไป

สิงโตแอฟริกา และสิงโตอินเดียไม่มีลักษณะที่แตกต่างกัน สิงโตไม่มีลายบนตัวอย่างเสือ ตัวผู้ที่โตเต็มที่จะมีขนยาวขึ้นรอบคอ ดูสง่าน่าเกรงขาม ตัวเมียไม่มีขนรอบคอ ตรงปลายหางมีขนขึ้นเป็นพู่

ถิ่นอาศัย, อาหาร

พบในทวีปแอฟริกา ในทวีปเอเชียยังคงพบได้บ้างเช่นในประเทศอินเดียทางแถบตะวันตก สิงโตกินเนื้อสัตว์เป็นอาหาร กินสัตว์ได้แทบทุกชนิด เช่น กระต่ายป่า ไก่ป่า ลิง จระเข้ เม่น กวางต่างๆ และม้าลาย เป็นต้น แม้แต่ซากสิงโตด้วยกันเองก็กิน

พฤติกรรม, การสืบพันธุ์

ชอบอยู่เป็นฝูงตามทุ่งโล่ง ขนาดของฝูงขึ้นอยู่กับปริมาณของเหยื่อ ถ้ามีเหยื่อมากและเหยื่อมีขนาดใหญ่ สิงโตก็จะอยู่รวมกันเป็นฝูงใหญ่ เวลาส่วนใหญ่ของสิงโตหมดไปกับการนอนพักผ่อน จะล่าเหยื่อก็ต่อเมื่อหิว หน้าที่ล่าเหยื่อจะเป็นของตัวเมียเป็นส่วนใหญ่ ตัวผู้ล่าเหยื่อไม่เก่ง แต่จะเป็นผู้คอยกันตัวเมียออกจากซากเหยื่อ เพื่อให้ลูกสิงโตได้มีโอกาสกินด้วย นอกจากนี้ยังมีหน้าที่ป้องกันฝูงและรักษาอาณาเขตของฝูงจากตัวผู้ตัวอื่น สิงโตออกหากินกลางคืน ตั้งแต่เริ่มมืดจนถึงเที่ยงคืน เมื่อกินเหยื่อเสร็จแล้วต้องกินน้ำ และนอนพัก ตอนเช้าจึงจะกลับที่อยู่ การล่าเหยื่อของสิงโตมีทั้งแบบออกล่าตัวเดียวและเป็นกลุ่ม วิธีการล่าเหยื่อของสิงโตคือจะพยายามเข้าไปใกล้เหยื่อให้ได้มากที่สุดก่อนที่จะตะครุบเหยื่อหรือออกวิ่งไล่เหยื่อ เพื่อให้เหยื่อมีเวลาหนีน้อยที่สุดเนื่องจากว่าสิงโตสามารถวิ่งได้เร็วในระยะสั้นๆเท่านั้น นอกจากนี้สิงโตยังมีความอดทนอย่างมากในการรอคอยเหยื่อ สิงโตมีฤดูผสมพันธุ์ไม่แน่นอนสามารถมีได้ทุกเวลาตลอดปี ตัวเมียเริ่มผสมพันธุ์ได้เมื่อมีอายุประมาณ 3 ปี ส่วนตัวผู้ประมาณ 4-6 ปี ระยะของการเป็นสัดนาน 4-16 วัน ตั้งท้องนานราว 100 วัน ออกลูกครั้งละ 3-5 ตัว ลูกอดนมเมื่ออายุ 3-6 เดือน และมีอายุยืนประมาณ 30-40 ปี

สถานภาพปัจจุบัน

สถานที่ชม

สวนสัตว์ดุสิต สวนสัตว์เปิดเขาเขียว สวนสัตว์เชียงใหม่ สวนสัตว์นครราชสีมา สวนสัตว์สงขลา


http://www.moohin.com/animals/mammals-68.shtml
http://www.verdantplanet.org/catsoftheworld/cat_lion.php
http://std.kku.ac.th/4831800546/general/general.html



นกยูงไทย
Green Peafowl
ชื่อทางวิทยาศาสตร์: Pavo muticus


ลักษณะทั่วไป

เป็นนกขนาดใหญ่มาก ความยาววัดจากปลายปากถึงปลายหางประมาณ 102 - 245 เซนติเมตร ทั้งเพศผู้และเพศเมียมีหงอนเป็นพู่สีเหลืองชี้ตรงอยู่บนหัว ต่างจากนกยูงอินเดียซึ่งเป็นรูปพัด บนหัวและคอเป็นขนสั้น ๆ สีเขียวเหลือบน้ำเงิน หน้ามีสีฟ้า ดำ และเหลือง ขนคอ หน้าอกและหลังตรงกลาง ขนมีเหลือบน้ำเงินแก่ล้อมด้วยสีเขียวและสีทองแดง นกยูงตัวผู้มีแพนขนปิดหางยาวหลายเส้น ตรงปลายมีดอกดวง "แววมยุรา" ตรงกลางดวงมีสีน้ำเงินแกมดำอยู่ภายในพื้นวงกลมเหลือบเขียว ล้อมรอบด้วยรูปไข่สีทองแดง เมื่อนกยูงรำแพนจึงเป็นรูปพัดขนาดใหญ่มีสีสันสวยงามมาก นกยูงตัวเมียมีขนาดเล็กกว่าตัวผู้เล็กน้อย และมีเดือยสั้นกว่า ขนของตัวเมียมักมีสีน้ำตาลแดงแทรกอยู่เป็นคลื่น


ถิ่นอาศัย, อาหาร

นกยูงมีการกระจายพันธุ์ในรัฐอัสสัม ประเทศอินเดีย ด้านตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศจีน เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเกาะชวา ในประเทศไทยพบในภาคเหนือและภาคตะวันตก นกยูงกินทั้งพืชและสัตว์ ได้แก่ เมล็ดหญ้า เมล็ดของไม้ต้น ธัญพืช ผลไม้สุก แมลง ตัวหนอน ไส้เดือน งู และสัตว์ขนาดเล็ก


พฤติกรรม, การสืบพันธุ์

นกยูงอาศัยตามป่าทั่วไปในระดับความสูงไม่เกิน 1,000 เมตรจากระดับน้ำทะเล พบอยู่เป็นฝูงเล็กๆ หลังช่วงฤดูผสมพันธุ์มักพบตัวเมียอยู่กับลูกตามลำพัง มักออกหากินในช่วงเช้าและบ่าย ตามชายป่าและริมลำธาร ตอนกลางคืนมักจับคอนนอนตามกิ่งไม้ค่อนข้างสูง การเกี้ยวพาราสีกันของนกยูงเริ่มเมื่อนกยูงตัวเมียหากินเข้าไปดินแดนของนกตัวผู้ ตัวผู้จะร่วมเข้าไปหากินในฝูงด้วย และแสดงการรำแพนหาง กางปีกสองข้างออกพยุงลำตัว ชูคอขึ้นแล้วย่างก้าวเดินหมุนตัวไปรอบ ๆ ตัวเมีย การรำแพนหางจะใช้เวลาประมาณ 5 - 10 นาที หากตัวเมียพร้อมที่จะผสมพันธุ์จะย่อตัวลงให้ตัวผู้ขึ้นผสมพันธุ์ นกยูงทำรังบนพื้นดินตามที่โล่งหรือตามซุ้มกอพืช อาจมีหญ้าหรือใบไม้แห้งมารองรัง วางไข่ครั้งละ 3 - 6 ฟอง เริ่มฟักไข่หลังจากออกไข่ฟองสุดท้ายแล้ว โดยใช้เวลาฟักทั้งสิ้น 26 - 28 วัน ลูกนกแรกเกิดมีขนอุยคลุมทั่วตัว สามารถยืนและเดินตามแม่ไปหาอาหารได้ทันทีที่ขนแห้ง โดยลูกนกจะตามแม่ไปหากินไม่น้อยกว่า 6 เดือน จากนั้นจึงหากินตามลำพัง


สถานภาพปัจจุบัน

นกยูงในป่าธรรมชาติค่อนข้างหายาก และปริมาณน้อย นอกจากบางแห่ง เช่น เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง ที่ยังพบได้บ่อย และปริมาณปานกลาง กฎหมายจัดให้นกยูงไทยเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พุทธศักราช 2535


สถานที่ชม

สวนสัตว์ดุสิต สวนสัตว์เปิดเขาเขียว สวนสัตว์เชียงใหม่ สวนสัตว์นครราชสีมา สวนสัตว์สงขลา


http://www.moohin.com/animals/birds-95.shtml
http://www.oknation.net/blog/2532/2009/02/12/entry-10
http://learners.in.th/blog/tippawanpo/253265





ยีราฟ
Giraffe
ชื่อทางวิทยาศาสตร์: Giraffa camelopardalis



ลักษณะทั่วไป

เป็นสัตว์บกที่สูงที่สุด มีคอยาวมาก ตัวผู้มีส่วนสูงประมาณ 18 ฟุต น้ำหนักประมาณ 1,100 - 1,932 กิโลกรัม ตัวเมียมีส่วนสูงประมาณ 17 ฟุต น้ำหนักประมาณ 700 - 1,182 กิโลกรัม มีเขาทั้งในตัวผู้และตัวเมีย ไม่ผลัดเขา เขามีขนปกคลุมอยู่ หนังมีขนสั้นสีน้ำตาล มีลายขาวแปลกตา ปากและลิ้นยาว ใช้ริมฝีปาก และลิ้นม้วนวนจับใบไม้ได้ มีเต้านม 4 เต้า


ถิ่นอาศัย, อาหาร

พบเฉพาะในทวีปแอฟริกา แถบทุ่งหญ้าสะวันนา ทางตอนใต้ของทะเลทรายซาฮาร่า ตั้งแต่ไนจีเรียไปจนจรดแม่น้ำออเรนจ์ ยีราฟไม่ชอบกินหญ้ามากนัก ชอบกินใบไม้มากกว่า


พฤติกรรม, การสืบพันธุ์

ชอบอาศัยอยู่ในทุ่งกว้างรวมกันเป็นฝูง และหากินร่วมกับสัตว์อื่นพวกม้าลาย นกกระจอกเทศ และพวกแอนติโลป โดยยีราฟจะคอยระวังภัยให้ ตัวผู้มีการต่อสู้กันในช่วงฤดูผสมพันธุ์ ศัตรูสำคัญของยีราฟคือเสือดาวและสิงโต ซึ่งยีราฟป้องกันตัวโดยใช้หัวเหวี่ยงและใช้เท้าเตะ ยีราฟเริ่มผสมพันธุ์ได้เมื่อมีอายุราว 3 ปีครึ่ง ตั้งท้องนาน 420 - 468 วัน ออกลูกครั้งละ 1 ตัว ลูกหย่านมเมื่ออายุ 10 เดือน เป็นสัดทุก 14 วัน แต่ละครั้งเป็นอยู่นาน 24 ชั่วโมง และมีอายุยืนประมาณ 20-30 ปี


สถานภาพปัจจุบัน


สถานที่ชม

สวนสัตว์ดุสิต สวนสัตว์เปิดเขาเขียว สวนสัตว์เชียงใหม่ สวนสัตว์นครราชสีมา สวนสัตว์สงขลา


http://www.moohin.com/animals/mammals-68.shtml
http://std.kku.ac.th/4831801102/main.html
http://www.cyberpetsociety.com/topic.php?topic=965



กวางป่า (กวางม้า)
Sambar Deer
ชื่อทางวิทยาศาสตร์: Cervus unicolor



ลักษณะทั่วไป

เป็นกวางขนาดใหญ่ ขนยาวหยาบมีสีน้ำตาลเข้ม ขนบริเวณคอจะยาวขึ้นหนาแน่นกว่าที่อื่นๆ ลูกกวางป่าเกิดใหม่จะไม่มีจุดขาว ๆ ตามตัวเช่น ในลูกเนื้อทรายหรือกวางดาว หางค่อนข้างสั้น มีเขาเฉพาะตัวผู้ เขามีข้างละ 3 กิ่ง เขาที่ขึ้นครั้งแรกมีกิ่งเดียว เมื่อเขาแรกหลุดเขาที่ขึ้นใหม่ มี 2 กิ่ง เมื่อเขา 2 กิ่งหลุด เขาที่ขึ้นใหม่มี 3 กิ่ง ปีต่อไปเมื่อผลัดเขาใหม่จะมีเพียง 3 กิ่งเท่านั้น ไม่เพิ่มมากกว่านี้ ผลัดเขาทุกปีในช่วงเดือนมีนาคม หรือ เดือนเมษายน เขาแก่ในเดือนพฤศจิกายน มีแอ่งน้ำตาที่หัวตาทั้ง 2 ข้าง ขนาดใหญ่มากยื่นออกมาให้เห็นชัดเจน ยิ่งในฤดูผสมพันธุ์แอ่งน้ำตานี้จะยิ่งมีขนาดใหญ่ขึ้นอีกและขับสารที่มีกลิ่นแรงมากออกมาซึ่งเป็นประโยชน์ในการดมกลิ่นตามหากัน เป็นสัตว์ที่มีหู ตา จมูกไวมาก



ถิ่นอาศัย, อาหาร

พบตั้งแต่ศรีลังกา อินเดีย เนปาล พม่า ไทย อินโดจีน จีนตอนใต้ มาเลเซีย สุมาตรา ชวา บอร์เนียว เซลีเบส ไต้หวัน ไหหลำ ฟิลิปปินส์ อัสสัม สำหรับประเทศไทย พบตามป่าดงดิบทั่วไปทุกภาคทั้งป่าสูงและป่าต่ำ ชอบกินใบไม้ และยอดอ่อนของพืชมากกว่าหญ้า อาหารในธรรมชาติของกวางได้แก่ เถาวัลย์อ่อน ๆ ยอดอ่อนของไม้พุ่มเตี้ย ๆ ใบไม้ใบหญ้าที่เพิ่งผลิใบ ใบไผ่ และชอบกินดินโป่งมาก

พฤติกรรม,การสืบพันธ์


ปกติชอบอยู่ตามลำพังตัวเดียว นอกจากฤดูผสมพันธุ์ ออกหากินตั้งแต่ตอนเย็นถึงเช้าตรู่ ส่วนกลางวันจะนอนในที่รกทึบ ชอบอาศัยอยู่ตามป่าทั่วไปรวมทั้งป่าทึบ ชอบออกมาหากินอยู่ตามริมทาง ลำธาร และทุ่งโล่ง ชอบนอนแช่ปลักโคลนเหมือนกระบือเพื่อป้องกันแมลง ในฤดูผสมพันธุ์ตัวผู้จะดุร้ายและหวงตัวเมียมาก ช่วงนี้ตัวผู้จะต่อสู้กันอย่างดุร้ายเพื่อแย่งตัวเมีย ว่ายน้ำเก่งและปราดเปรียว มันไม่ชอบช้างและกลิ่นของช้าง ฤดูผสมพันธุ์อยู่ในช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนมกราคม ตั้งท้องนานประมาณ 8 เดือน ออกลูกครั้งละ 1 ตัวในช่วงต้นฤดูฝน ลูกกวางจะเริ่มแยกจากแม่ไปหากินตามลำพังเมื่ออายุราว 1 ปีหรือ 1 ปีกว่า และโตกวางป่าพร้อมผสมพันธุ์ได้เมื่ออายุ 18 เดือน อายุยืนประมาณ 15-20 ปี


สถานภาพปัจจุบัน

เป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พุทธศักราช 2535



สถานที่ชม

สวนสัตว์เปิดเขาเขียว สวนสัตว์เชียงใหม่ สวนสัตว์นครราชสีมา สวนสัตว์สงขลา


http://www.moohin.com/animals/mammals-5.shtml
http://www.wanakorn.com/natural_detail.php?tid=38&nid=307
http://www.neutron.rmutphysics.com/science-glossary/index.php?option=com_content&task=view&id=11341&Itemid=5